จัดการตารางรหัส

จาก คูนิฟ็อกซ์ วิกิ

ตำแหน่งเมนู

เมนู "ตารางรหัส/การตั้งค่า" → จัดการตารางรหัส

การใช้งาน

*** อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับตารางรหัส, ธรรมชาติของรายการในตารางรหัส, และข้อควรปฏิบัติในการบริหารตารางรหัส ภายใต้บทความ "โมดูลในระบบคูนิฟ็อกซ์"

เพจจัดการตารางรหัส
เพจจัดการตารางรหัส

เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ ระบบคูนิฟ็อกซ์เปิดให้สามารถจัดการรายการในตารางรหัสได้จากหลายจุด (เช่น ผู้ใช้สามารถเพิ่มลูกหนี้รายใหม่ หรือสินค้ารายการใหม่จากเพจรายการขายได้ทันที) อย่างไรก็ตาม การจัดการตารางรหัสอย่างเต็มรูปแบบ (ซึ่งรวมถึงการคัดลอก, นำเข้า, ส่งออก, ฯลฯ) จะรวบรวมอยู่ภายใต้เมนูย่อย "จัดการตารางรหัส"เท่านั้น

  1. เมื่อผู้ใช้เข้าสู่เพจ "จัดการตารางรหัส" โปรแกรมจะแสดงตารางรหัสทั้งหมดที่ใช้งานอยู่ ทั้งที่เป็นของบริษัทปัจจุบัน และที่ใช้ร่วมกับบริษัทแม่ (ถ้ามี)
  2. คลิกเลือกตารางรหัสที่ต้องการดู/จัดการข้อมูล โปรแกรมจะเข้าสู่เพจของตารางรหัสที่เลือก
    • ตารางรหัสส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นตารางเดี่ยว (ดูวิธีใช้งานตารางได้ที่ "ตารางในระบบคูนิฟ็อกซ์")
    • ตารางรหัสบางส่วนมีโครงสร้างซับซ้อน จำเป็นต้องใช้ฟอร์มและตารางร่วมกันในการแสดงค่า (ดูวิธีการใช้งานได้ที่ "หน้าจอเอกสาร")

*** โครงสร้างและรายละเอียดของแต่ละตารางรหัสจะอธิบายอย่างละเอียดในบทความเฉพาะของตารางรหัสนั้นเอง (โดยจะมีลิงก์จากโมดูลเจ้าของตารางรหัส)

ตารางรหัสและ Static ID

ตารางรหัสของระบบคูนิฟ็อกซ์ใช้ static ID (เลขประจำรายการคงที่) ในการอ้างอิงรายการในตารางรหัสทุกตาราง โดยผู้ใช้สามารถกำหนดค่า static ID ได้เองเมื่อเพิ่มรายการ แต่จะไม่สามารถแก้ไขค่านี้ในภายหลังได้

ข้อดีของการใช้ static ID

  • สามารถเปลี่ยนแปลงรหัสต่างๆ ได้ ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการจัดระเบียบรหัสอ้างอิงใหม่ จึงมีความยืดหยุ่นมากกว่าระบบที่ใช้รหัสในการอ้างอิงโดยตรง
  • ในกรณีที่แต่ละสาขา/บริษัทในเครือไม่ได้ใช้ตารางร่วมกัน แต่ละหน่วยงานยังสามารถใช้รหัสรายการแตกต่างกันตามความสะดวกได้ เพียงแค่ตั้ง static ID ของวัตถุเดียวกันให้มีค่าตรงกัน ต่างจากระบบที่อ้างอิงด้วยเลขประจำรายการที่ระบบจ่ายให้โดยอัตโนมัติ (id หรือ row_id)

ข้อควรระวังในการใช้ static ID

  • การเปลี่ยนแปลงรหัสรายการใช้เพื่อจัดระเบียบรายการใหม่เท่านั้น โดย static ID ยังต้องอ้างอิงถึงวัตถุเดิม ไม่ควรเปลี่ยนรหัสจนทำให้ static ID ที่เคยอ้างอิงวัตถุหนึ่งอยู่ ไปอ้างอิงถึงอีกวัตถุหนึ่ง ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงรหัสสินค้าที่ถูกต้อง (ในที่นี้เพื่อจัดระเบียบความยาวรหัสใหม่ให้เท่ากัน)
Static ID รหัสสินค้าเดิม รหัสสินค้าใหม่
1 PEN-0001 PEN-0001
2 PENCIL001 PCL-0001
3 TV1 TV0-0001
ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงรหัสสินค้าที่ไม่แนะนำ (ในที่นี้ มีการเปลี่ยนแปลงสินค้าที่อ้างอิงโดย static ID หมายเลข 2 และ 3)
Static ID รหัสสินค้าเดิม รหัสสินค้าใหม่
1 PEN-0001 PEN-0001
2 PENCIL001 TV0-0001
3 TV1 PCL-0001